สีขาวนวล อวลกลิ่น มะลิวัลย์
หอมเหมือนฝัน พันใจไว้ ไม่ยอมห่าง
ทั้งกิ่งก้าน ก็อ่อนโอน ดั่งนวลปราง
มีใครบ้าง ไม่รักเจ้า...... เฝ้าเคลียคลอ
: : : : : : : : : : : : : : : : : : : : : : : : : : : :
กรุงเทพมหานครปีพุทธศักราช 2488
:
:
:
ณ ตำหนักเสด็จพระองค์ชายวรภัทร
เสียงร้องไห้ด้วยความเสียใจดังระงมไปทั่วตำหนักประภากร เมื่อต้องสูญเสียธิดาเพียงพระองค์เดียวของเสด็จพระองค์ชายวรภัทรประภากร หญิงสาวผู้เป็นที่รักยิ่งของทุกคนในวังอย่างหม่อนเจ้าหญิงชณชนก ประภากร เนื่องจากทรงประชวรด้วยโรคร้าย ด้วยพระชันษาเพียง 23 ชันษาเท่านั้น
การสิ้นชีพิตักษัยของท่านหญิงน้อยในครานี้สร้างความเสียพระทัยให้แก่เสด็จพระองค์ชายเป็นอย่างมาก เพราะพระองค์ทรงรักธิดาองค์นี้เป็นที่สุด เนื่องจากพระองค์ทรงเลี้ยงดูท่านหญิงมาด้วยพระองค์เองเหตุเพราะท่านหญิงได้สูญเสียท่านแม่ไปตั้งแต่ยังทรงเยาว์วัย
หลังจากการจากไปของท่านหญิงน้อยได้ไม่นานนักเสด็จพระองค์ชายเองก็ทรงประชวรอย่างหนักเหตุเพราะทรงตรอมพระทัยที่ต้องสูญเสียธิดาสุดที่รักของพระองค์ไปอย่างไม่มีวันกลับและทรงสิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา ทำให้ตำหนักของพระองค์ถูกทิ้งร้างตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาเนื่องจากเจ้าของตำหนักทั้งสองพระองค์ไม่อยู่แล้วเสียแล้ว เหลือก็เพียงแต่ผู้ดูแลที่เป็นคนเก่าคนแก่ของวังเท่านั้นที่ทำใจทิ้งวังแห่งนี้ไปไม่ได้
:
:
:
กรุงเทพมหานครปีพุทธศักราช 2562
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดูหล่อเหลา ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในชุดลำลองแต่ก็ยังคงดูสง่าและน่ามอง กำลังจะเดินเข้าไปที่หน้าประตูทางเข้าของบ้านหลังหนึ่งซึ่งเคยเป็นวังเก่าของเจ้านายชั้นสูงพระองค์หนึ่ง เขาตั้งใจที่จะซื้อที่นี้เพื่อทำเป็นแกลอรี่ไว้จัดแสดงรูปภาพและงานนิทรรศการต่างๆที่เกี่ยวกับงานศิลปะและภาพถ่ายที่เขาชอบด้วยสถาปัตยกรรมของบ้านที่เป็นแบบยุโรปและอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก เพียงแค่ซ่อมแซมและตกแต่งอีกนิดหน่อยก็คงเปิดได้ทันตามกำหนดที่เขาตั้งใจเอาไว้
กีรติ อรรถพันธ์ บุตรชายคนเล็กของพลเอกพีรพลและคุณหญิงแสงโสม อรรถพันธ์ หนุ่มนักเรียนนอกที่เพิ่งเรียนจบด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์จากประเทศสหรัฐอเมริกามาหมาดๆ หนุ่มเนื้อหอมที่ได้รางวัลหนุ่มในฝันจากนิตยสารชื่อดังฉบับหนึ่ง
คุณติ เป็นคนที่สนใจในงานศิลป์มาตั้งแต่ยังเล็กๆเขามักจะชอบวาดภาพ ถ่ายภาพและสะสมงานศิลปะของศิลปินหลายๆคนจนสามารถนำมาจัดแสดงนิทรรศการได้ ชายหนุ่มถูกใจบ้านเก่าหลังนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาขับรถผ่าน ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลงไปดูด้านในเลยด้วยซ้ำเขาก็ตั้งใจว่าจะต้องซื้อที่นี้ให้ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความสวยงามของตัวบ้านที่ดูโดดเด่นถึงแม้จะถูกทิ้งร้างมานาน หรือมีอะไรบางอย่างดลใจให้ชายหนุ่มรู้สึกคุ้นเคยและผูกพันกับสถานที่แห่งนี้อย่างหน้าประหลาด เพียงแค่ก้าวแรกที่เขาได้เดินเข้าไปในบ้านหลังนี้ความทรงจำในอดีตก็หวนคืนมาอีกครั้งเมื่อเขาได้พบกับเธอ หม่อมเจ้าหญิงชณชนก ประภากร
:
:
บ้านอรรถพันธ์
“ เค้าจะขายให้เราจริงๆใช่ไหมครับคุณแม่ “ ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจ
“ จริงสิลูก แม่ไปคุยกับคุณฉวีเจ้าของบ้านหลังนั้นมาแล้ว “
“ แล้วเขาจะขายให้เราราคาเราเท่าไหร่ครับ “
“ เห็นว่าเค้าจะให้ธนาคารมาประเมินราคาอีกทีนะลูก “
“ ขอบคุณคุณแม่มากนะครับ ขอบคุณจริงๆ” ชายหนุ่มโผเข้าไปกอดแม่ของเขาด้วยความดีใจ
“ บ้านเก่าขนาดนั้นจะเอาไปทำไมก็ไม่รู้ “ กัลยาพี่สาวของเขาพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“ ก็เอามารีโนเวทแล้วก็ทำแกลอรี่ไง “ ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ คงขาดทุนแน่ๆคนไทยนะไม่ได้ชอบงานศิลปะอะไรขนาดนั้นนะ เอามาทำเป็นห้างสรรพสินค้ายังจะทำกำไรเสียมากกว่า หรือไม่ก็ขายต่อคงได้ราคาดีไม่น้อย “ หญิงสาวยังคงคัดค้านการทำแกลอรี่ของน้องชายเสียงแข็ง
“ เอาล่ะๆหยุดเถียงกันสักที แม่ตั้งใจจะซื้อที่นั้นให้เป็นของขวัญวันเรียนจบของน้อง แกก็อย่าอิจฉาน้องนักเลยนะยายหนึ่ง “ คุณหญิงแสงโสมพูดตัดบทด้วยความรำคาญ
“ คุณแม่อ่ะ เห็นตาติดีกว่าหนึ่งทุกทีเลย “ กัลญาพูดด้วยความน้อยใจที่รู้สึกว่าแม่รักน้องมากกว่าตน
“ แม่ไม่เคยเห็นว่าใครดีกว่าใครนะยายหนึ่ง แต่นี้น้องเรียนจบมาด้วยคะแนนระดับเกียรตินิยมขนาดนี้ ก็ควรได้รับรางวัลกันบ้างสิ เหมือนตอนที่เราได้รถคันใหม่จากคุณพ่อยังไง “ น้ำเสียงที่ดูมีอำนาจของคุณหญิงทำให้ลูกสาวคนโตยอมสงบปากสงบคำไปได้
หญิงสาวเดินกะฟัดกระเฟี้ยดออกไปทันทีอย่างไม่พอใจนักที่แม่ของตนไม่เคยเขาข้างเธอเลย เอาแต่เข้าข้างน้องชายของเธออยู่เสมอ
หลังจากการสนทนาจบลง ชายหนุ่มก็ขอตัวเข้าไปทำงานในสตูดิโอของตนทันที
พอเดินเข้ามาด้านในห้องก็ทำให้รู้สึกประหลาดใจกับกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้บางอย่างที่มากระทบกับปลายจมูกของเขา ชายหนุ่มสูดดมเอากลิ่นหอมนั้นเข้าไปจนเต็มปอด ก็ทำให้รู้สึกง่วงขึ้นมาอย่างกระทันหัน
“ ทำไมง่วงนอนแบบนี้นะ “ เขาพึมพำกับตัวเองแล้วพยายามสะบัดศรีษะเอาความรู้สึกง่วนั้นออกไปแต่ก็ไม่เป็นผล
ไม่นานนักก็ทนกับความง่วงที่มีไม่ไหว เปลือกตาของเขาคอยๆปิดลงจนสนิททั้งสองข้าง ลมหายใจเข้าออกลึกสม่ำเสมอ เขาได้เข้าสู่ห้วงนิทราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
:
:
:
ในความฝัน
กีรติค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ พอดวงตาเปิดเต็มที่ก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้า ชายหนุ่มลุกขึ้นมายืนอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ที่ถูกตกแต่งสไตล์ยุโรป ในห้องถูกทาด้วยสีขาวนวลดูสะอาดตา ตรงกลางห้องโถงก็มีแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกจัดอย่างสวยงามตั้งอยู่ เขามองดูบนเพดานของห้องที่ถูกประดับแชนเดอเลียนดูวิจิตรงดงาม ตรงหน้าของชายหนุ่มเป็นบันไดที่แบ่งออกเป็นสองข้าง เพื่อขึ้นไปยังชั้นบนทั้งทางด้านซ้ายและด้านขวา เขาได้แต่หันไปดูรอบๆก็ไม่เจอใครสักคน ชายหนุ่มเดินไปรอบบริเวณนั้นด้วยความตื่นตาตื่นใจ
ถึงเขาจะเคยเห็นสถานที่ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามมามากแต่ก็ไม่น่าประทับใจเท่าที่นี้ ที่เขายืนอยู่ตรงนี้
“ เดินขึ้นไปด้านบนดีไหมนะ “ ชายหนุ่มพูดกับตัวเอง
เขาจึงตัดสินใจที่จะเดินขึ้นไปด้านบน แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาออกไปก็ได้ยินเสียงเรียกจากทางด้านหลังเขาของเขา คนถูกเรียกจึงต้องหันกลับไปตามเสียงนั้น
“ พี่ชายใหญ่ กลับมาหาหญิงแล้วใช่ไหมค่ะ “
น้ำเสียงของหญิงสาวเต็มไปด้วยความดีใจปนความเศร้า ที่ทำให้คนฟังรู้สึกเศร้าตามอย่างหน้าประหลาด
ชายหนุ่มจองมองไปที่หญิงสาวตรงหน้าอย่างพินิจ เธอดูงดงามราวกับภาพวาด หญิงสาวสวมชุดเดรสลายลูกไม้สีชมพูอ่อนยาวคลุมเขา ดวงตากลมโตนั้นดูเป็นประกายแต่ก็แฝงไปด้วยความเศร้า ผิวขาวนวลของเธอนั้นดูราวกับหิมะ ริมฝีปากอิ่มสวยบวกกับพวงแก้มที่แดงระเรื่อชวนให้น่ามองจนไม่อาจจะละสายตาไปได้ ผมสีน้ำตาลเข้มที่หยักศกเล็กน้อยยิ่งทำให้เธอดูราวกับตุ๊กตาที่มีชีวิต เธอเป็นใครกันทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนเขาต้องเคยพบกับเธอมาก่อนแน่ๆแต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอเธอที่ไหน ยังไม่ทันจะได้พูดคุยอะไรกันชายหนุ่มก็เริ่มได้ยินเสียงคนเรียกจากที่ไกลๆ
“ ติลูก !! “
“ ตาติตื่นลูก “
ชายหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆก็เห็นแม่ของเขานั่งอยู่ที่ข้างๆตัว
“ อะไรกันเดี๋ยวนี้นอนกลางวันด้วยหรอเรา “
“ แค่พักสายตาน่ะครับคุณแม่ “
“ พักสายซะสนิทเลยนะ แม่เรียกตั้งนานแล้ว เพิ่งจะรู้สึกตัว “
“ คุณแม่มีอะไรครับ “
“ แม่จะมาตามไปกินของว่างน่่ะ “
“ ครับคุณแม่ไปก่อนเลย เดี๋ยวผมตามไป “
“ เร็วๆนะลูก “
ชายหนุ่มลุกขึ้นมานั่งและนึกถึงความฝันที่เพิ่งจะผ่านมาเมื่อครู่นี้
“ ฝันกลางวันสินะ ถึงได้เจอนางฟ้าแบบนั้น “ เขานึกถึงหญิงสาวที่เห็นในความฝันก็ทำให้ยิ้มออกมาอย่างน่าประหลาดใจ
:
:
:
เช้าวันต่อมา คุณหญิงแสงโสมได้นัดเจอกับคุณฉวีเจ้าของวังเก่าที่ลูกชายคนเล็กของเธอหมายตาเอาไว้ ทั้งสองคนตกลงกันเรื่องราคาเรียบร้อยแล้วก็ได้ทำสัญญาซื้อขายกันทันที
“ ขอบพระคุณคุณหญิงมากนะค่ะที่สนใจจะซื้อที่นี้ไป “
“ ไม่เป็นไรค่ะ พอดีลูกชายของฉันเขาชอบที่นี้มากฉันเลยอยากจะให้เป็นของขวัญกับเค้า “
“ วังริมน้ำจะได้มีคนมาดูแลสักที “
“ วังริมน้ำหรือค่ะ ที่นี้เคยเป็นวังมาก่อนหรอค่ะ“ คุณหญิงแสงโสมถามด้วยความสนใจเพราะไม่เคยรู้ประวัติของบ้านหลังนี้มาก่อน
“ ใช่ค่ะที่นี้เป็นวังค่ะ “
“ ของเจ้านายพระองค์ไหนกันค่ะ “
“ เป็นพระตำหนักของเสด็จพระองค์ชายวรภัทรประภากรค่ะ “
“ เอ่ แล้วทำไมถึงได้มาเป็นของคุณฉวีได้ล่ะค่ะ”
“ เพราะราชสกุลประภากรไม่เหลือผู้สืบทอดแล้วทางพระญาติที่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินส่วนนี้จึงได้ขายให้ตระกูลของดิฉันและคุณย่าของดิฉันก็เป็นคนดูแลวังนี้มาโดยตลอดน่ะค่ะ”
“ แล้วพระองค์ชายวรภัทร ไม่มีโอรสหรือธิดาเลยหรือค่ะ “
“ มีค่ะ แต่ก็สิ้นไปตั้งแต่ชันษายังน้อย “
“ น่าเศร้าจังเลยนะคะ “
“ แต่เอ๊ะ คุณหญิงนามสกุลอรรถพันธ์ “
“ ใช่ค่ะนามสกุลของสามีดิฉัน ทำไมหรือคะ”
“ เท่าที่ดิฉันทราบมาราชสกุลประภากรและอรรถพันธ์เคยได้เกี่ยวดองกันมาก่อนนะคะ “
“ ดิฉันไม่ค่อยรู้เรื่องราวในอดีตสักเท่าไหร่หลอกค่ะ เพราะท่านนายพลไม่เคยเล่าเรื่องอะไรของบรรพบุรุษของท่านให้ฟังมากนัก “
ในระหว่างการสนทนาของคนทั้งคู่ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาคั้นการสนทนานี้
คุณฉวีหยิบโทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋าของเธอและกดรับทันที
“ ขอโทษนะคะ “
“ ตามสบายค่ะ “
หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จคุณฉวีก็ขอตัวกลับก่อน เพราะเธอต้องรีบไปทำธุระต่อที่อื่นอีก
“ ดิฉันต้องขอตัวกลับก่อนนะคะคุณหญิง “
“ ตามสบายค่ะ “
“ ลานะคะ “
“ ค่ะ “
:
:
:
บ้านอรรถพันธ์
กีรติกำลังวาดภาพของหญิงสาวในความฝันของเขาจากความทรงจำ
ชายหนุ่มใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงภาพของเธอก็เสร็จสมบูรณ์ ชายหนุ่มยืนดูภาพวาดนั้นด้วยความรู้สึผูกพันกับหญิงสาวในภาพอย่างน่าประหลาดทั้งๆที่เขาเจอเธอเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นและก็เจอในความฝันอีกด้วย แต่ทำไมถึงได้คุ้มเคยราวกับว่ารู้จักกันมาแสนนาน
“ ติ!! “ เสียงคุณหนึ่งพี่สาวของเขาเรียกขึ้นทำให้ชายหนุ่มหลุดออกจากภวังค์
“ อะไรครับพี่หนึ่ง เรียกซะเสียงดังตกใจหมด “
“ ฉันเรียกแกตั้งหลายครั้งแล้วนะไม่ได้ยินรึไง”
“ มีอะไรครับ “
“ ฉันจะมาบอกแกว่าคุณแม่กลับมาแล้ว นิแกวาดรูปใครน่ะ “
“ ผู้หญิงในฝัน “
“ ผู้หญิงในฝัน “ น้ำเสียงของพี่สาวดูจะขำน้องชายของเธอที่พูดคำนั้นออกมา
“ น่าขำตรงไหนครับ “
“ ก็ตรงที่แกพูดนะสิคนอย่างแกมีผู้หญิงในฝันด้วยหรอ เห็นจีบเค้าไปทั่ว “
“ มีสิพี่หนึ่งไม่เห็นจะแปลกตรงไหน “
“ เพ้อเจ้อจริงๆ “ หญิงสาวยังคงเย้าน้องชายของเธอ
“ คุณแม่ให้มาตามใช่ไหม พี่ช่วยกลับไปบอกคุณแม่ทีนะว่าเดี๋ยวผมไปหา “
“ นิแกใช้ฉันหรอ!! “
“ ก็ใช้นะซิ “
“ ไอติ !!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
“ เออๆ เดี๋ยวผมไปหาคุณแม่เองก็ได้ “ ชายหนุ่มพูดปัดรำคาญ
“ น้องบ้า “
“ เฮ้อ!! “
ชายหนุ่มรีบเดินหนีจากพี่สาวของเขาทันทีเพราะรู้ว่าขืนอยู่ตรงนั้นอีกแค่นิดเดียวคงจะต้องทะเลาะกันแน่ๆ
กีรติเดินเข้าไปในบ้านก็เข้าไปอ้อนแม่ของเขาที่เพิ่งจะกลับมาจากเจรจาซื้อบ้านเก่าหลังนั้น
“ คุณแม่ครับทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ “
“ ตกลงกันเรียบร้อยแล้วลูกเหลือแค่เราจ่ายเงินให้เขาแล้วก็ทำสัญญาซื้อขาย “
“ ขอบคุณนะครับรักคุณแม่ที่สุดเลยครับ” ชายหนุ่มกอดแม่ของเขาอย่างออดอ้อนแล้วก็หอกแก้มเธอ
:
:
:
ทางด้านคุณนายฉวีที่รับโทรศัพท์แล้วรีบออกมาเพราะลูกชายของเธอยังไม่พอใจในราคาของที่ดินที่วังริมน้ำจึงให้แม่ของเขากลับมาคุยกันก่อนที่จะทำสัญญาซื้อขาย
“ พลแกเรียกแม่ออกมาทำไม “ คุณฉวีพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
“ แม่ไปตกลงกับคุณหญิงนั้นไม่บอกผมสักคำ”
“ แล้วทำไมฉันต้องบอกแกด้วย ในเมื่อที่ดินตรงนั้นมันเป็นของฉัน “
“ แม่จะขายให้เค้าเท่าไหร่ “
“ 60 ล้าน “
“ อะไรนะแม่มันถูกไปรึป่าว “
“ นี้ฉันก็ขายตามราคาประเมินที่ดินแล้วนะ”
“ 100 ล้านแม่ ต้อง100ล้านเท่านั้น “
“ แกจะบ้ารึไงแค่นี้เราก็กำไรมากแล้วนะ ที่ดินตรงนั้นเราก็ได้มาราคาถูกๆ ขายได้ราคานี้ก็ดีมากแล้ว “
“ แม่เชื่อฉันถ้าพวกเขาอยากได้จริงๆเขาต้องยอมจ่ายเราสิ ไอตระกูลอรรถพันธ์นั้นใครๆก็รู้ว่ามันรวยจะตายเงินแค่100ล้านขนหน้าแข้งมันไม่ร่วงหลอก”
“ แล้วถ้าเขาเปลี่ยนใจไม่เอาขึ้นมาเราจะไม่ได้อะไรเลยนะ ใครๆก็รู้ว่าที่วังนั้นน่ากลัวขนาดไหน”
“ ถ้าเขาไม่เอาเราก็ค่อยลดราคาลงมา “
“ นั้นสินะ “
เมื่อความโลภเข้าครอบงำในจิตใจแล้วก็ย่อมส่งผลให้อยากได้ไม่สิ้นสุด คุณนายฉวีจึงเชื่อตามคำของลูกชายเพราะอยากได้เงินเพิ่มจากการขายที่ดินที่ตระกูลของเธอได้มันมาในราคาที่แสนจะถูก
นิยายเรื่องนี้ถูกการคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดดัดแปลง ทำซ้ำหรือคักลอกเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อ เพราะเป็นเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของผู้สร้างสรรค์งานแต่เพียงผู้เดียวในการเผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดัดแปลง
ความคิดเห็น